Breaking News
Home / ข่าว / กิจกรรม : งานวิจัย / ภูมิปัญญาอีสาน: เครื่องมือจากอดีตสู่การรับมือภัยพิบัติในปัจจุบัน

ภูมิปัญญาอีสาน: เครื่องมือจากอดีตสู่การรับมือภัยพิบัติในปัจจุบัน

ภูมิปัญญาอีสาน: เครื่องมือจากอดีตสู่การรับมือภัยพิบัติในปัจจุบัน

จากการเสวนา เรื่อง  “ภูมิปัญญาอีสานกับการจัดการภัยพิบัติ: จากรากสู่ระบบโลก”   ผ่านรายการ “โสเหล่ออนไลน์ ส่องซอดอีสาน” ของสถาบันวิจัยศิลปะและวัฒนธรรมอีสาน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม  ซึ่งได้ถ่ายทอดออนไลน์ไป เมื่อวันพุธที่ 11 มิ.ย. 2568 เวลา 17:-30 – 18:30 น. โดยมีปราชญ์ชาวบ้านผู้สืบทอดภูมิปัญญา  ประกอบด้วย นางสมจิตร งามยิ่ง ปราชญ์ชาวบ้าน นางลัดดา คำสีลา ประธาน อสม. ชุมชนศรีสวัสดิ์ 2  ดร.ธายุกร พระบำรุง  ผู้อำนวยการหน่วยปฏิบัติการวิจัยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การบรรเทา และการปรับตัว (CMARE) ในฐานะนักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อม) นางสาวสุนิสา โฮ Associate Programme Management Officer สำนักงานเพื่อการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติแห่งสหประชาชาติ (UNDRR) และคณะผู้ร่วมเสวนาประจำรายการจากสถาบันฯ จำนวน 4 ท่าน


ในการเสวนาครั้งนี้ ปราชญ์ชุมชน ได้เล่าถึงประสบการณ์ตรงว่า บางภูมิปัญญา เช่น การสังเกตมดแดงขนไข่ หรือพฤติกรรมของแมลงก่อนฝนตก เริ่มคาดเคลื่อนไปจากเดิม ซึ่งเป็นผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ทำให้ระบบนิเวศในท้องถิ่นเปลี่ยนแปลง เช่น วัฏจักรของฝน ลม หรืออุณหภูมิ ทำให้พฤติกรรมทางชีวภาพของสัตว์และพืชเปลี่ยนแปลงตาม นี่สะท้อนว่า
ภูมิปัญญา แม้จะมีคุณค่า แต่ก็ต้องมีการเรียนรู้ใหม่ และปรับตัวเช่นกัน โดยเฉพาะในยุคที่ความไม่แน่นอนเพิ่มสูงขึ้น ภูมิปัญญาจะยังคงทรงคุณค่า หากได้รับการเชื่อมโยงกับองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์และระบบการจัดการภัยพิบัติร่วมสมัย

เรายังได้เห็นอย่างชัดเจนว่า ภูมิปัญญาท้องถิ่นมิได้เป็นเพียงเรื่องของความเชื่อหรือพิธีกรรมเท่านั้น หากแต่เป็นทุนทางสังคมที่สั่งสมผ่านประสบการณ์ ความสัมพันธ์กับธรรมชาติ และการถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น  ภูมิปัญญาเหล่านี้ มีความเชื่อมโยงกับหลักการทางวิทยาศาสตร์อย่างแนบแน่น เช่น การสังเกตพฤติกรรมสัตว์ พืช และการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติที่สามารถใช้เป็นสัญญาณเตือนภัยเบื้องต้นได้อย่างแม่นยำ ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่จะต้องมีการบันทึก รวบรวม และวิเคราะห์ภูมิปัญญาเหล่านี้อย่างเป็นระบบ พร้อมทั้งเชื่อมโยงกับองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อใช้ในการบริหารจัดการภัยพิบัติที่เหมาะสมกับบริบทท้องถิ่น การเรียนรู้จากพื้นที่จริงที่ชุมชนเป็นฐานการจัดการภัยพิบัติ ทำให้เราประจักษ์ว่า “ภูมิปัญญา” ไม่เพียงเป็นมรดกทางวัฒนธรรม แต่ยังเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการสร้างความยืดหยุ่นให้กับชุมชนในภาวะวิกฤต และเป็นทุนความรู้ที่ต้องได้รับการยอมรับและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังมีการผสานระหว่างภูมิปัญญากับกรอบการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ เช่น หลักการที่ 7 ของ MCR2030 (Making Cities Resilient 2030) ของสำนักงานเพื่อการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติแห่งสหประชาชาติ (UNDRR) คือ มีการประยุกต์ใช้ความรู้ ข้อมูลท้องถิ่น และระบบเตือนภัยที่ครอบคลุมถึงทุกกลุ่มประชากร ถือเป็นแนวทางสำคัญในการยกระดับภูมิปัญญาให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาเมืองที่ยืดหยุ่นต่อภัยพิบัติ ที่ต้องรักษาและบันทึกภูมิปัญญาไว้ เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ร่วมกันระหว่างชุมชน ท้องถิ่น และนักวิชาการ เพื่อสร้างระบบเตือนภัยที่แม่นยำและใช้ได้จริงในพื้นที่

สามารถรับชมเสวนาย้อนหลังได้ที่
https://www.facebook.com/rinac.msu/videos/1212932890583822 #ภูมิปัญญาอีสาน #ภัยพิบัติ #วิทยาศาสตร์กับวัฒนธรรม #RINAC #MSU #รู้รากรู้ทางสร้างพลังแห่งการอยู่รอด

ภาพและข่าว : คณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์/ดร.ธายุกร พระบำรุง

เผยแพร่โดย : ชลทิตย์ สีเทา

ณ วันที่ : 20 มิถุนายน 2568

About env@msu.ac.th

Check Also

ภูมิปัญญาผู้สูงวัย: พลังปรับตัวเพื่ออนาคตเมืองมหาสารคาม

ภูมิปัญญาผู้สูงวัย: พลังปรับตัวเพื่ออนาคตเมืองมหาสารคาม

ภูมิปัญญาผู้สูงวัย: พลังปรับตัวเพื่ออนาคตเมืองมหาสารคาม เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2568 คณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม โดย ดร.ธายุกร พระบำรุง ผู้อำนวยการหน่วยวิจัยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การบรรเทา และการปรับตัว (CMARE) …

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *