
ระหว่างวันที่ 29-31 ตุลาคม 2568 ผศ.ดร. สุนันทา เลาวัณย์ศิริ ประธานหลักสูตร วท.ม. และอาจารย์ ดร.ชฤพนธ์ เจริญสุข นำคณะนิสิตระดับปริญญาโท และนิสิตระดับปริญญาเอก สาขาวิชาการจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ได้ศึกษาดูงานด้านการจัดการทรัพยากรธรรมติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนผ่านนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ณ ประเทศสิงคโปร์ โดยได้เข้าศึกษาดูงาน ณ sustainability singapore gallery ซึ่งเป็นการศึกษาดูงาน ด้านการจัดการทรัพยากรธรรมติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนผ่านนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยมีจุดเด่น การออกแบบโดยคำนึงถึงความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม ได้แก่ เรือนกระจกปรับอากาศ Flower Dome (ฟลาวเวอร์โดม) และ Cloud Forest (คลาวด์ฟอเรสต์) ซึ่งมีชื่ออยู่ในบันทึกสถิติโลกกินเนสส์เมื่อปี ค.ศ. 2015 ในฐานะเรือนกระจกที่ใหญ่ที่สุดในโลก หลังคากระจกที่ไม่มีอะไรค้ำนี้ครอบคลุมพื้นที่กว้างโล่งซึ่งไม่มีเสาต้นใหญ่ขวางกั้นแต่อย่างใด นอกจากการออกแบบอันล้ำสมัยแล้ว เรือนกระจกเหล่านี้ยังใช้เทคโนโลยีอันทันสมัยเพื่อประสิทธิภาพด้านพลังงานที่ดียิ่งขึ้น และซูเปอร์ทรีอันโดดเด่น ซึ่งเป็นสวนแนวตั้งสูง 25 ถึง 50 เมตร โดยเป็นแหล่งเก็บกักน้ำฝน และทำหน้าที่ผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ และเป็นเครื่องระบายอากาศสำหรับเรือนกระจกของสวนแห่งนี้ แนวคิด City in the garden พื้นที่สีเขียวในสิงคโปร์เริ่มมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1965 เพื่อที่ประชาชนในประเทศจะมีความสุขและคุณภาพชีวิตดีขึ้น จึงได้วางกลยุทธ์และออกแบบผังเมืองให้มีพื้นที่สีเขียวตั้งแต่วันนั้น จนวันนี้กลายเป็นเมืองที่สิ่งแวดล้อมดีเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก อีกทั้งภายในปี ค.ศ. 2030 ยังมีแพลนว่าจะปลูกต้นไม้เพิ่มอีก 1 ล้านต้น ขยายพื้นที่ปั่นจักรยาน แบนรถที่ใช้น้ำมันดีเซล และปี ค.ศ. 2025 ลดขยะฝังกลบต่อครัวเรือน 30% และให้บริษัทต่างๆ รับผิดชอบต่อขยะที่ตัวเองสร้าง อีกทั้งยังสนับสนุนให้หันมาใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์เพิ่มอีก 5 เท่า
นอกจากนี้ ยังได้เข้าชม Sustainable Singapore Gallery เพื่อศึกษาด้านการจัดการทรัพยากรน้ำ และการจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน จุดเด่น Sustainable Singapore Gallery ตั้งอยู่ที่ Marina Barrage พื้นที่ 1,500 กว่าไร่ สำหรับการจัดสรรน้ำให้ผู้คนกว่า 5.6 ล้านคนบนเกาะ รวมไปถึงเป็นประตูระบายน้ำที่เป็นกลไกสำคัญในการแก้ปัญหาน้ำท่วมในเขตเมือง ขณะเดียวกันยังมี Solar Park พื้นที่ติดตั้งแผงพลังงานแสงอาทิตย์ที่ใหญ่ที่สุด โดยเปลี่ยนแสงอาทิตย์เป็นไฟฟ้าป้อนเข้าสู่ระบบประตูน้ำและตัวอาคาร Sustainable Singapore Gallery พิพิธภัณฑ์แบบอินเตอร์แอคทีฟที่ไม่เพียงบอกเล่าเรื่องราวของการจัดการน้ำในประเทศ หากยังพูดถึงแนวทางการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืนในอนาคต โดย Public Utilities Board (PUB) ใช้เทคโนโลยีมัลติมีเดียและการออกแบบที่ล้ำสมัย บอกเล่าวิสัยทัศน์การจัดการน้ำเพื่อรับมือกับโลกอนาคต เพราะอย่างที่บอก สิงคโปร์ไม่นิ่งดูดายกับการขอซื้อน้ำจากประเทศเพื่อนบ้านไปตลอด ที่นี่จะท้าให้เรารู้ว่า PUB มีกระบวนการกลั่นน้ำจืดจากน้ำทะเลอย่างไร วิธีการผันน้ำจากอ่างเก็บน้ำ ทั้งหมด 17 แห่งทั่วเกาะ และนวัตกรรมที่สำคัญอย่าง NEWater ซึ่งเป็นการบ้าบัดน้ำเสียด้วยการกรองและฆ่าเชื้อด้วยอัลตร้าไวโอเลต เพื่อนำน้ำกลับมาใช้ใหม่ และยังมีกิจกรรมหลากหลายรูปแบบสำหรับการศึกษาเรียนรู้ เช่น เครื่องเล่นที่ให้คุณตอบคำถามเพื่อประเมินว่าชีวิตประจำวันของคุณใช้คาร์บอนไปเท่าไหร่, นิทรรศการที่บอกเล่าถึงความพยายามในการลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศของประเทศ, เกมบนหน้าจอทัชสกรีนที่ช่วยให้ข้อมูลว่าขยะที่พวกเราสร้างขึ้นในชีวิตประจำวันจะถูกนำไปรีไซเคิลได้อย่างไรและเป็นอะไรได้บ้าง/ จักรยานแบบอินเตอร์แอคทีฟให้ผู้ชมปั่นไปพร้อมกับการสร้างจิตส้านึกและการย้ำแนวคิดของเมืองปลอดเครื่องยนต์ในอนาคต
ภาพและข่าว : คณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม/สุกัญญา ชมชื่น
เผยแพร่โดย : ชลทิตย์ สีเทา
ณ วันที่ : 10 พฤศจิกายน 2568
คณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม|Faculty of Environment and Resource Studies Mahasarakham University